วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

แม่แบบภาพยนตร์ Age of Ultron , ผู้กำกับหนังหนังใหม่ SPIDER-MAN

หนัง!!! อัลตรอน บุกเต็มกำลัง ดูตัวอย่างที่ 3 Avengers: Age of Ultron


หนัง


เรื่องราวความเข้มข้น ระทึกได้ใจขึ้นเรื่อยๆ กับตัวอย่างหนังใหม่ของภาพยนตร์แอ็คชั่นฮีโร่ที่ทุกคนรอคอยอย่างเรื่อง Avengers: Age of Ultron ที่ครั้งนี้ได้ทำการ ปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างตัวที่ 3 ออกมาแล้ว กับการเตรียมทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ของ อัลตรอน ตัวร้ายเบอร์ล่าสุด ที่เหล่าฮีโร่

  • ไอรอนแมน
  • กัปตันอเมริกา
  • ธอร์
  • ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์
  • แบล็ค วิโดว์
  • ฮอว์คอาย 

นั้นต้องร่วมกันยับยั้งความวินาศนี้ให้ได้




เกี่ยวกับโปรแกรมหนังเรื่อง Avengers: Age of Ultron นั้นนำแสดงเพราะ

  1. โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทเป็น ไอรอนแมน 
  2. คริส อีแวนส์ รับบทเป็น กัปตันอเมริกา
  3. คริส เฮมสเวิร์ธ รับบทเป็น ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า
  4. มาร์ค รัฟฟาโร่ รับบทเป็น เดอะ ฮัลค์
  5. สกาเล็ตต์ โจแฮนสัน รับบทเป็น แบล็ค วิโดว์
  6. เจเรมี่ เรนเนอร์ รับบทเป็น ฮอว์คอาย
  7. แซมมวล แอล. แจ็คสัน รับบทเป็น นิค ฟิวรี่
  8. โคบี้ สมัลเดอร์ส รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ มาเรีย ฮิลล์ 


ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันกำจัด

  1. เจมส์ สเปเดอร์ รับบทเป็น อัลตรอน





ถ้าอย่างนั้นเราลองไปดูตัวอย่างที่ 3 ของ Avengers: Age of Ultron กัน ก่อนที่จักได้ชมกันแบบเต็มๆ ใน 29 เมษายน 2558 เวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป






ดูตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง Age of Ultron




 มาดูผู้กำกับ SPIDER-MAN ฉบับมาร์เวลรีบูต!!




ก็คงจักพูดได้เลยว่าหนังเข้าใหม่เรื่อง สไปเดอร์แมน เป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ถูกรีบูตบ่อยที่สุดพร้อมทั้งถี่ที่สุดตัวหนึ่งของโลกจอเงินเลยก็ว่าได้ เพราะว่าว่าหลังจากที่ทางโซนี่พร้อมด้วยมาร์เวลได้เจรจากันเป็นที่เรียบร้อยลงตัวแล้ว การเอาแฟรนชายส์ไอ้แมงมุมกลับสู่บ้านเกิดของตัวเอง นั่นทำให้สตูดิโอมาร์เวลตกลงที่จะจ้างผู้กำกับฝีมือดีมีสไตล์เก๋แปลกแหวกแนวอย่าง ดรูวส์ กอดดาร์ด จากหนังสยองขวัญหักมุมคนดูจนหน้าหงายอย่างเรื่อง The Cabin in the Woods มารับหน้าที่ทั้งเขียนบทและกำกับไอ้แมงมุมภาครีบูต

หลังจากที่ ดรูวส์ กอดดาร์ด ไม่เป็นแค่เพียงตัวเโจษจันกชั้นดีของทางสตูดิโออย่างมาร์เวลแล้ว แต่เขาเรียกได้ว่าเขามีสายสัมพันธ์พร้อมกับใกล้ชิดกับจักรวาลมาร์เวล ของซูเปอร์ฮีโร่เป็นอย่างมากเพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทกับจอร์จ วีดอน มือเขียนบทให้กับเช็ครอบหนังรวมเหล่าฮีโร่อย่าง 1.The Avengers, 2.Avengers: Age of Ultron รวมไปถึงซีรีย์มาร์เวลที่สปินออฟออกมาอย่างเรื่อง Agents of S.H.I.E.L.D. อีกด้วย

แต่ว่าอันที่แน่นอนแล้วตัวของ ดรูวส์ กอดดาร์ด นั้นเคยถูกวางตัวจากทางสตูดิโอโซนี่ ให้กำกับหนังสปินออฟจากเรื่อง The Amazing Spider Man 2 พร้อมด้วยเรื่อง The Sinister Six เป็นหนังรวมบรรดาวายร้ายตัวฉกาจของสไปเดอร์แมน แต่เพราะทางโซนี่ได้เซ็นข้อผูกพันแชร์คาแรกเตอร์ตัวนี้กับทางมาร์เวลทำให้โครงการสร้างหนังเรื่องนี้ถูกพับเก็บขึ้นชั้นไปก่อน รอเวลาที่เหมาะอีกทีคงจะได้สร้างกัน

พร้อมกับไม่ปางเท่านั้นตัว กอดดาร์ด เองก็เพิ่งจะมีโอกาสได้เขียนบทให้กับซีรีย์ซูเปอร์ฮีโร่ในค่ายมาร์เวลอย่างเรื่อง Daredevil ในปีที่พ้นมาด้วยแต่เขาเขียนบทไปได้แค่สองตอน แต่เขาก็ถอนตัวออกมาเพื่อจะดูแลงานสร้างให้กับเรื่อง The Sinister Six แต่ว่าตราบใดโครงการถูกพับไป ซึ่งเขาก็คงหัวเสียอยู่ไม่น้อยที่ต้องทิ้งโปรเจ็คเรื่อง Daredevil มา

แต่แล้วกลายเป็นว่าส้มเลยหล่นใส่ผู้กำกับการแสดงหนังคนนี้เข้าอย่างจังในการที่ มาร์เวล ได้เเอิกเกริกกตัวเขาให้มาดูแล Spider - Man เวอร์ชั่นรีบูตใหม่ครั้งนี้ ด้วยกันสิ่งที่น่าจับตามองถัดจากนั้นก็คือ ใครล่ะที่จักมาแสดงเป็นซูเปอร์ฮีโร่นัก ปลดปล่อยใยคนต่อไป!


ที่มา: http://xn--12cmad7fk7bcnb3gc0fe3una1a6g.blogspot.com/ , http://movienew2014-2015.blogspot.com/


วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

วิจารณ์หนังข้อ UNBROKEN

บทวิจารณ์หนังเรื่อง UNBROKEN


class=aligncenter


ถึงแม้ว่าหนังอย่างเรื่อง Unbroken นั้นจักตั้งใจนำเสนอวีรกรรมพร้อมด้วยความอดทนของบุคคลที่มีตัวตนอยู่แน่แท้ในชีวประวัติศาสตร์อย่าง หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ แต่ทว่าจุดขายของโปรแกรมหนังที่แท้ครันคือการเอาชื่อผู้กำกับหนังหญิงอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ มาขายเป็นหลัก เสียจนเราอาจจักกล่าวได้ว่า เราแทบจะสนใจในออร่ารัศมีของตัวโจลี่ มากกว่าจักไปโฟกัสตัวหนังเสียอีกด้วยซ้ำไป


ซึ่งครันๆ แล้วผลงานการกำกับของโจลี่ชิ้นที่ 3 นี้ถือว่าทำออกมาได้สมน้ำสมเนื้อ เพราะว่าตัวหนังมีสเกลของเรื่องที่เรียกได้ว่าใหญ่พอตัว เนื่องจากตัวหนังมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องสงคราม ปรากฏมู่ลี่เครื่องบินรบ รวมไปถึงช่วงเวลาที่ตัวละครของเรื่องต้องไปลอยคออยู่กลางทะเล ก่อนที่จะโดนจับไปอยู่ในค่ายเชลยตอนท้ายเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าการดูแลงานสร้างของโจลี่แม้ว่าจักออกมาน่าพอใจ แต่ครั้งลองหันกลับมามองในเรื่องตัวบทหนังพร้อมทั้งวิธีการเล่าเรื่องของเธอแล้วจักพบว่าตัวหนังเข้าใหม่ค่อนข้างประสบปัญหาพอสมควร


เพราะว่าที่ แจ็ค โอคอนเนล ที่เป็นนักแสดงนำของเรื่องที่รับบทเป็น หลุยส์ แซมเปอร์รินี่ นั้นต้องรับหน้าที่ในการโอบอุ้มเช็ครอบหนังทั้งเรื่องไว้เลยทีเดียว เหตุเพราะมันเล่าช่วงเวลาที่เขาต้องพยายามเอาชนะตัวเองในการวิ่งมาราธอนก่อนจะผันตัวเองไปวิ่งแข่งขันเป็นนักกีฬาในการแข่งขันโอลิมปิกโลก ซึ่งหนังก็เล่าช่วงเวลานี้แบบตัดผ่านๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก


แต่ทว่าฝันของหลุยส์ นั้นก็ต้องดับวูบหายไปเท่าที่เขาต้องเข้าไปร่วมเป็นพลทหารอากาศในกองทัพสหรัฐ ระหว่างที่เขาได้รับภารกิจในการบินไปลาดตระเวนนั้นเองเครื่องของเขาก็ถูกยิงตกลงในมหาสมุทรจนต้องลอยคอยอยู่กลางทะเลเป็นเวลาหลายอาทิตย์ ซึ่งพวกเขาก็ต้องเผชิญสภาพขาดน้ำ ขาดอาหารกับโดนแสงแดดแผดเผาจนร่างกายไหม้ คล้ายๆ กับชีวิตพายใน Life of Pi แต่ที่ซวยหนักกว่าคือการที่เขาถูกกองทัพญี่ปุ่นพบและจับตัวไปเป็นเชลยสงครามในค่ายทหาร


พร้อมกับ ณ ในค่ายทหารนั้นเองหลุยส์ต้องเผชิญหน้า เดอะเบิร์ด 1.มิยาวิ, 2.ทาคามาสะ อิชิฮาระ ที่ใครๆ ก็ขนานนามว่าเขาเป็นจอมโหดแห่งค่ายเชลยสงครามที่มักจักลงมือลงไม้กับนักโทษเป็นประจำ พร้อมกับหลุยส์ก็ตกเป็นกระสอบทรายอยู่บ่อยครั้ง


ซึ่งสิ่งที่น่ากังขาก็คือ ความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดของ เดอะเบิร์ด พร้อมด้วย หลุยส์ นั้น เรียกได้ว่าตัวดูหนังนำเสนอมาแล้วส่อกลิ่นโฮโมอิโรติกคลุ้งจอไปหมด ตามที่เคมีของนักแสดงชายทั้งสองคนดันเข้ากันแบบประหลาด ยิ่งแววตาโหยไห้ของฝ่ายญี่ปุ่นนั่นยิ่งสร้างความรู้สึกตะหงิดๆว่าจริงๆแล้ว เดอะเบิร์ดนั้นแอบชอบในความไม่ยอมแพ้ของหลุยส์ หรือคิดเป็นอื่นไกลไปกว่านั้นเราก็ไม่อาจจักรู้ได้เหมือนกัน เท่าแค่รู้สึกได้ว่าผนังนั้นส่งกลิ่นแปลกๆอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


เพราะถ้ามองในภาพรวมแล้วหนังใหม่อาจจะไม่ได้บันเทิง ไม่ก็น่าจดจำในทุกภาคส่วน แต่ถือว่าเป็นผลงานที่เรามองเห็นความตั้งใจของ แองเจลิน่า โจลี่ ในการถ่ายทอดเรื่องราวของหลุยส์ แซมเปอรินี่ได้ไม่เลวทีเดียวครับ

ให้ 3 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด

class=

ที่มา: http://movie.sanook.com/48181/

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รางวัล Oscars 2015 บำเหน็จตรงนี้ ใครพอที่คว้า?

รางวัล Oscars 2015 รางวัลนี้ ใครควรได้?




เดินทางเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปี 87th Academy Awards หรือ Oscars 2015 รางวัลออสการ์ที่เตรียมมอบให้กับจอเงินคุณภาพที่คู่ควรในสาขาต่างๆ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ในเช้าวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย

ขึ้นชื่อว่ารางวัลออสการ์ 2015 นั้นก็ยังคงอัดแน่นด้วยจอเงินคุณภาพที่ตรงตามเกณฑ์กับมาตรฐาน ทั้ง 24 สาขารางวัล เพื่อในปีนี้หนังตลกร้าย รวมดาราชั้นนำ กลายเป็นในความโดดเด่น Birdman กับ The Grand Budapest Hotel เข้าชิงมากที่สุดถึง 9 รางวัล

เพราะหนังเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามก็มาแรงอย่างเรื่อง The Imitation Game เข้าชิงถึง 8 รางวัล ส่วนหนังม้ามืดอย่างเรื่อง American Sniper มีชื่อเข้าเข้าชิงถึง 6 รางวัล  ในขณะที่หนังที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการในปีนี้อย่างเรื่อง Boyhood ก็ได้กลายเป็นตัวเต็ง เข้าชิง 6 รางวัลเช่นเดียวกัน

แต่ว่าผู้ชนะในแต่ละสาขามีได้เท่าแค่หนึ่งเดียว นี่คือ การคาดการณ์ ผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 87 ซึ่งประมวลจากข้อมูลทางสถิติรางวัลพร้อมทั้งรายได้ รวมทั้งคะแนนเสียงจากนักวิจารณ์หนังชั้นนำมาให้ได้ดูกัน




ซึ่งเหตุด้วยบรรดารางวัลที่เกี่ยวกับ การแสดง ของออสการ์ปีนี้ เป็นที่น่าเสียดาย ก็เพราะว่าหลายสาขาล้วนแต่มี ตัวเต็ง ไม่ใช่หรือ ตัวเด่น ชนิดที่เตรียมตัวนอนมารับตุ๊กตาทอง ต่างว่าไม่มีอะไรที่พลิกความคาดหมายและค้านสายตาคนดูหนังอย่างเราๆ

มาเริ่มทำต้นจาก รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ที่คงไม่รับไม่ได้ว่า Julianne Moore มีผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมใน Still Alice กับบทบาทผู้หญิงกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากเทศกาลหนังต่างๆ พร้อมทั้งนี่อาจจักสิ้นสุดการรอคอยเกือบ 20 ปี หลังจากที่เธอเคยเข้าชิงออสการ์มาถึง 4 ครั้ง แต่ยังไม่เคยคว้าได้เลยสักตัวเลย

ในส่วนสาวคนอื่นๆ ที่ร่วมเข้าชิงในรางวัลนักแสดงนำหญิงนี้ แม้จะทำผลงานเข้าตากรรมการ แต่ก็ยังไม่มีใครโดดเด่นได้เท่ากับตัวเต็ง บทบาทของ Felicity Jones ในเรื่อง The Theory of Everything นั้นน่าประทับใจ พร้อมทั้ง ไม่ควรมองข้าม

ส่วน Reese Witherspoon ในเรื่อง Wild ยังคงสร้างงานแสดงดีๆ ได้สมกับมาตรฐานของ Marion Cotillard จากเรื่อง Two Days, One Night ติดโผเข้ามาอย่างเซอร์ไพรส์ ด้วยกันก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอขึ้นแท่นเป็นขวัญใจกรรมการ ส่วน Rosamund Pike จากเรื่อง Gone Girl เธอคนนี้ก็ต้องจับตามอง

ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: Julianne Moore | ส่วนตัวแปร: Felicity Jones | ส่วนม้ามืด: Reese Witherspoon




ด้วยกันมาดู รางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม กันบ้าง สาขานี้ก็แทบจะไม่ต้องลุ้น เจ้าแม่ดาราทีวี Patricia Arquette น่าจะมาคว้ารางวัลออสการ์จากการเข้าชิงครั้งแรกไปได้อย่างสบาย จากการแสดงที่โดดเด่นในเรื่อง Boyhood

และคู่แข่งคนอื่นๆ ในสาขานี้แทบจักไม่น่ากลัวอย่าง Emma Stone จากเรื่อง Birdman กับ Keira Knightley จากหนังเข้าใหม่เรื่อง The Imitation Game ที่ได้รับเสียงชมจากนักวิจารณ์ Laura Dern จากเรื่อง Wild ก็ติดโผเข้ามาแบบงงๆ ส่วน Meryl Streep จากเรื่อง Into the Woods รายนี้เป็นขาประจำ เข้าชิงออสการ์แบบปีเว้นปี


ผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Patricia Arquette | ส่วนตัวแปร: Keira Knightley | ส่วนม้ามืด: Laura Dern




และมาดูรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ก็เป็นอีกหนึ่งสาขาที่มี ตัวเต็ง ลอยเด่นมาแต่ไกลอย่าง JK Simmons ที่โชว์ฝีมือการแสดงเข้าขั้นเทพในเรื่อง Whiplash ที่เดินสายกวาดรางวัลมาแทบจักทุกเวที พร้อมด้วยนี่คงเป็นการคว้าตุ๊กตาทองตัวแรกในชีวิตการแสดงของเขา ที่น่าจักครอบครองมาได้เพราะว่าไร้ข้อกังขา

ในขณะที่ผู้เข้าชิงอีก 4 คน ก็ไม่น่าหวั่นเกรงสักเท่าไหร่อย่าง Edward Norton จากเรื่อง Birdman กับ Ethan Hawke จากเรื่อง Boyhood เพราะที่ 2 คนนี้บรรดานักวิจารณ์หนังคอยส่งเสียงสนับสนุนอยู่ไม่น้อย ส่วน Mark Ruffalo จากหนังเรื่อง Foxcatcher และ Robert Duvall จากเรื่อง The Judge พร้อมทั้งน่าเสียดายที่พวกเขาแทบจักถูกลืม

ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: J.K. Simmons | ส่วนตัวแปร: Edward Norton | ส่วนม้ามืด: Ethan Hawke



มาเพิ่มระดับความน่าตื่นเต้นกันน่อย เกี่ยวกับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประจำปีนี้คงเป็นสาขาการแสดงที่ได้ลุ้นกัน การชิงดีชิงเด่นระหว่าง หนุ่มดาวรุ่ง กับ ดารารุ่นใหญ่อย่าง Michael Keaton ที่โชว์ ช่างของโดนใจนักวิจารณ์ทั้งประเทศจากการแสดงใน Birdman ส่วน Eddie Redmayne จากเรื่อง The Theory of Everything ที่รับบทอัจฉริยะโลกจารึกอย่าง Stephen Hawking แบบตามสูตรออสการ์เป๊ะ แม้ว่าคะแนนของทั้งคู่จะสูสีกัน แต่ผู้ชนะมีเพียงแค่หนึ่งเดียว

พร้อมทั้งผู้เข้าชิงรางวัลนำชายคนอื่นๆ ก็น่าประทับใจ อย่าง Steve Carell ที่พลิกบทบาทแปลงโฉมโชว์ฝีมืออย่างเข้มข้นในเรื่อง Foxcatcher ก็ไม่ควรมองข้าม เช่นเดียวกับ Benedict Cumberbatch จากเรื่อง The Imitation Game ก็พอที่จะมีลุ้น ส่วนขวัญใจอเมริกาอย่าง Bradley Cooper จากหนังฮิตเรื่อง American Sniper ก็น่าจะกลายเป็นม้ามืดอยู่ในสาขารางวัลนี้

ผู้ชนะที่คาดว่าจักได้รางวัล: Eddie Redmayne | ส่วนตัวแปร: Michael Keaton | ส่วนม้ามืด: Bradley Cooper

และตามมาด้วยรางวัลเกี่ยวกับ บทภาพยนตร์ ปีนี้พบว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูสีในสาขารางวัลนี้ อีกทั้งยังมีบทภาพยนตร์หลายเรื่องที่คาดว่าจักติดโผเข้าชิง แต่กลับไม่มีชื่ออย่างน่าประหลาดใจ เช่น เรื่อง  Gone Girl, เรื่อง Wild หรือ เรื่อง Still Alice เป็นต้น




เหตุด้วยรางวัลบทหนังดัดแปลงยอดเยี่ยม แม้จักมีชื่อหนังหลายๆ หลุดโผไป แสดงให้เห็นว่าสาขารางวัลนี้ค่อนข้าง สายแข็ง เพราะเฉพาะงานดัดแปลงจากหนังสืออัตชีวพระประวัติกลางสมรภูมิรบอย่างเรื่อง American Sniper ได้ภาษีดีขึ้นมาทันที ที่กลายเป็นเป็นที่นิยมถล่มทลายตั้งแต่ปีใหม่ ส่วนหนังอินดี้อย่างเรื่อง Wishlash ดัดแปลงมาจากหนังสั้นชื่อเดียวกัน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่สร้างสรรค์ได้อย่างมีชั้นเชิง

ในส่วนผู้เข้าชิงเรื่องอื่นๆ งานดัดแปลงจากหนังสือของเรื่อง The Imitation Game ก็ไม่ควรมองข้าง เช่นเดียวกับเรื่อง The Theory of Everything ประวัติบุคคลของอัจฉริยะเรื่อง Stephen Hawking  ที่ตีความออกมาได้อย่างประทับใจ ขณะที่เรื่อง Inherent Vice กลายเป็นตัวเละบือกที่ติดโผเข้ามาแบบเซอร์ไพร์ส

ด้วยผู้ชนะที่คาดว่าจะได้รางวัล: Wishlash โดย Damien Chazelle | ส่วนตัวแปร: The Imitation Game เพราะว่า Graham Moore | ส่วนม้ามืด: American Sniper เพราะว่า Jason Hall


รางวัลยังไม่หมดแค่นี้นะ เดี๋ยวมาต่อกันพรุ่งนี้นะครับ หรือไม่ใครที่ขี้เกียจรอ เข้าไปอ่านได้เลยครับที่นี่ http://movie.sanook.com/47649/

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ตอนย่อยวิจารณ์หนังตอน The Imitation Game,Fifty Shades of Grey

บทวิจารณ์หนังเรื่อง The Imitation Game




ซึ่งในตัวหนังพร้อมทั้งชีวิตจริงของ อลัน ทัวริ่ง เขาอาจจะต้องคอยปกปิดความเป็น เกย์ ของตัวเองเอาไว้จวบจนวันตายของเขา มิหนำซ้ำในช่วงเวลาดังกล่าวแล้วการเป็นบุคคลที่รักในเพศเดียวกันนั้นยังจัดเป็นเรื่องผิดกฎหมายพร้อมด้วยมีบทลงโทษของการเป็นเช่นนั้นอีกต่างถ้า

เพราะว่าที่ อลัน ทัวริ่ง นั้นอาจจักเป็นแค่นักคณิตศาสตร์คนหนึ่ง แต่พอเขาฉายแววขณะเขาได้เข้าร่วมกับคณะถอดรหัสลับอีนิกม่าอันเป็นรหัสที่เยอรมันใช้ส่งข่าวสารเรื่องการเคลื่อนทัพในระยะเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 รหัสลับที่ว่ากันว่าถอดยากจนแทบไม่มีโอกาสจักถอดได้ แต่ว่าท้ายที่สุด อลัน ทัวริ่ง และพวกของเขาก็รอบรู้ช่วยเหเลื่องลือกองทัพของเหล่าสัมพันธมิตรให้กุมชัยชนะในสงครามด้วยกันย่นระยะเวลาจุดสิ้นสุดของสงครามให้จบลงไวกว่าเดิมร่วม 2 ปี

พร้อมกับการที่ได้สวมบทเป็นอลัน ทัวริ่งของเบเนดิกซ์ คัมเบอร์แบชนั้นเรียกได้ว่าเขาสามารถทำให้ตัวละครที่เขาสวมบทบาทเต็มไปด้วยมิติมากมายไม่ว่าจักเป็นในฐานะของอัจฉริยะที่มีปัญหาเรื่องการเข้ากับผู้คนพร้อมกับการที่ เกย์หนุ่มที่ต้องแอบซ่อนความรู้สึกของตัวเอง รวมไปถึงปมในจิตใจยามเด็กพร้อมทั้งการเโจษกจักแต่งงานบังหน้าเพื่อดึง โจน คลาร์ค หรือไม่ เคียร่า ไนท์ลีย์ เอาไว้ในทีมถอดรหัสไว้ให้ได้นานที่สุด

เหตุด้วยความน่าสนใจของตัวละครของ โจน คลาร์ค ก็เรียกได้ว่าโดดเด่นไม่พ่ายแพ้กับบทของอลัน เหตุเพราะตัวละครนี้เป็นเพศหญิงแค่พางคนเดียวเท่านั้น มิหนำซ้ำในยุคกาลสมัยดังกล่าวผู้หญิงถูกจัดเป็นช้างเท้าหลังที่มีหน้าที่อยู่ในหมวดนักทะเบียนเลขานุการเหรอไม่ก็ในฐานะแม่บ้านแม่เรือน แต่ในฐานะของนักคิดนั้น โอกาสความเป็นได้ต่ำเตี้ยพอๆกับบุคคลรักร่วมเพศ แถมหน้าที่ที่เธอโดนตราหน้าก็มีแค่เท่าการแต่งงานเป็นภรรยาของชายอื่นเช่นเดียวกับผู้หญิงทั่วไปในสังคม

เพราะความสำเร็จของ อลัน ทัวริ่ง นั้น ในช่วงเวลาดังกล่าวแทบจักไม่มีใครล่วงรู้เลย ตามที่มันเป็นปฏิบัติการลับทางทหาร พร้อมทั้งเวลาทะลุทะลวงไปกว่า 60 ปีจนถึงทุกวันนี้สาเหตุการจากไปของอลัน ทัวริ่งก็ยังคงเป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับคำตอบอันแน่ชัด แนวคิดแรกก็คือเขาอาจจะฆ่าตัวตายจากการสูดสารไซยาไนด์เข้าไปดังที่หดหู่กับการต้องรักษาอาการรักร่วมเพศด้วยการฉีดฮอร์โมนเอสโตรเจนเข้าร่างกาย แทนการจองจำในคุก แต่ในอีกแนวคิดหนึ่งคือเขาเสียชีวิตเนื่องด้วยการสูดดมไซยาไนด์เข้าไปเพราะว่าบังเอิญมากกว่า

แต่ว่าเรื่องที่น่าเศร้าที่ในช่วงเวลาดังกล่าวความสำเร็จที่อลัน เป็นได้ช่วยเหละบือเหล่าทหารนับหมื่นนับแสนนายให้รอดพ้นจากความโหดร้ายของสงคราม แต่มีแค่ไม่กี่คนที่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ความสำเร็จนั้นไม่ได้รับการป่าวประกาศหรือยกย่อง ซ้ำร้ายสิ่งที่เขาเป็นตามธรรมชาติของเขายังถูกสังคมมองว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายจนมันย้อนกลับมาแว้งกัดชีวิตของเขาอีก

และอย่างไรก็ตามวันนี้ก็มีคนรู้จักเกย์หนุ่มที่เป็นคนไขรหัสอีนิกมานามว่า อลัน ทัวริ่ง แล้ว

ให้ 4.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด

อ่าน 4 เรื่องสุดสยิวของเรื่อง Fifty Shades of Grey





เรื่องที่ 1.นั้นมาจากหนังสือเบสท์เซลล์เลอร์สู่ภาพบนจอเงิน

เพราะด้วยเรื่อง Fifty Shades of Grey นั้นเป็นผลงานวรรณกรรมของ อี แอล เจมส์ หนังสือไตรภาคที่มียอดขายถล่มทลายกว่า 100 ล้านเล่มใน 52 ภาษาทั่วโลก ที่สำคัญมันทำให้บรรดานักอ่านล้วนสนใจว่านิยายเล่มนี้มีความพิเศษตรงไหนพร้อมกับอะไรคือจุดขายของมัน และแน่นอนที่มันฉาวขนาดนี้เพราะมันเป็นนิยายที่พูดถึงเรื่องเซ็กส์แบบเจ็บๆ

เรื่องที่ 2.ความปรารถนารู้หมายเห็น

ในภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายเรื่องนี้ ที่ตกเป็นประเด็นการคาดเดาในวงกว้างพร้อมด้วยความสงสัยใคร่รู้ไร้ขอบเขต เพราะที่เทรลเลอร์ของหนังเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่มีผู้คลิ๊กชมมากที่สุดทาง YouTube ตราบใดปีที่แล้ว ยิ่งไปกว่านี้ในประเทศไทยได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่าตัวหนังจะเข้าฉายแบบเต็มๆไม่มีการตัดทอนใดๆออกแลกกับเรตที่ได้รับคือ ฉ 20+ นั่นคือต้องมีการตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าโรงหนัง

เรื่องที่ 3.ตัวของคริสเตียน เกรย์ หนุ่มนักธุรกิจรสนิยมเฉพาะทาง

ทางด้านของ เจมี ดอร์แนน ได้เสนอตัวรับบท คริสเตียน เกรย์ ที่เป็นนักแสดงชาวไอริช ผู้เป็นที่รู้จักจากการแสดงที่ได้รับรางวัลบาฟตา อวอร์ดของเขาในซีรีส์เรื่อง The Fall พร้อมกับซีรีส์ Once Upon a Time ได้ออดิชั่นบทบาทที่ใกล้เคียง

และด้วยเหตุที่บทโปรแกรมหนังจอเงินเป็นแน่แท้ๆนั้นถูกเก็บไว้เป็นความลับจนกระทั่งเหลือผู้ออดิชั่นน้อยลง เขาจึงได้ทดลองเล่นเป็นคริสเตียนแน่นอนๆ ภายหลัง

โดยภายหลังการที่ได้บันทึกภาพที่มีแววแล้ว นักแสดงหนุ่มก็ได้คุยทางสไคป์กับเทย์เลอร์-จอห์นสัน ผู้กำกับหนังพร้อมด้วยคณะผู้อำนวยการสร้างได้นั่งคุยกับดอร์แนนเป็นเวลานานตามคำขอของเขา เราคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ใครก็ตามที่จักรับบทนี้จักต้องทุ่มเทตัวเองแบบสุดๆ สุทธิๆ บรูเน็ตติกล่าว และถ้าจะมีความไม่มั่นใจ เกิดขึ้น มันก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในการถ่ายทำ และก็อาจจะเป็นปัญหาในหนังใหม่เรื่องอื่นๆ ด้วย

เรื่องที่ 4.เรื่องของ อนาสตาเซีย สตีล ทาสรักสาว

เกี่ยวกับผู้มารับบทบาทนี้ก็คือ ดาโกต้า จอห์นสัน เธอสนใจบทอนาสตาเซียก่อนโปรเจ็คนี้จะเป็นรูปเป็นร่างด้วยซ้ำไป เธอแสดงความคิดภายหลังการอ่านนิยายว่า ฉันรู้สึกว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก และหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ จนเซ็กส์ในหนังเข้าใหม่สือเรื่องนี้ ที่ถูกอธิบายอย่างโจ่งแจ้งพร้อมด้วยชัดเจน เป็นอะไรที่อิสระเสรีสำหรับคนทั่วไปค่ะ

พร้อมด้วยผู้กำกับของจอห์นสัน ได้อธิบายถึงเหตุผลที่นางเอกของเธอเหมาะกับบทนี้ว่า ฉันรู้ตั้งแต่แรกที่เราได้พบดาโกต้าแล้วว่าเราพบแอนัสเตเซียของเราแล้ว เธอแสดงถึงสมดุลที่เพอร์เฟ็กต์ระหว่างความเปราะบาง ความแสบซ่า ความงดงามพร้อมด้วยความกล้าหาญ ดาโกต้าเข้ามาทดสอบบทตั้งแต่ตอนแรกๆ มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ฉันรู้ว่าบทนี้เป็นของเธอ ดาโกต้า เธอมีไหวพริบ เสน่ห์และความเฉลียฉลาดของแอนาด้วยกันเธอก็เนรมิตชีวิตให้บทนี้ได้อย่างที่ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าจักมีใครทำได้อีก





วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Marvel เตรียมตัวรั้ง spierman มาถึงร่วมมือพร้อม Avengers,HUNGER PART 2

ล่าสุด!! สาวกสไปเดอร์แมน เตรียมเฮ! 

หลังมาร์เวล ได้สิทธิ์ดึงตัวละครกลับมาแจมในสงครามจักรวาล




ก็อาจจักเรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ดีที่สุดในรอบหลายๆปีกันเลยก็ว่าได้ เพราะว่าทันทีทางสตูดิโอมาร์เวลพร้อมทั้งโซนี่ พิกเจอร์ส นั้นเป็นได้หาข้อตกลงร่วมกัน รวมไปถึงส่วนแบ่งเรื่องเงินเป็นที่ลงตัว แล้วว่าทุกวันนี้ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนนั้นจักได้เข้ามาร่วมกรุ๊ปกับ The Avengers ได้อย่างแน่นอน พร้อมกับที่สำคัญคือการได้ร่วมแจมกับกรุ๊ป อเวนเจอร์ นี้จะมีการเฟ้นหาไอ้แมงมุมตัวใหม่ด้วย




เพราะว่าที่ทาง แอนดรูวส์ การ์ฟิลด์ ไอ้แมงมุมจากเรื่อง The Amazing Spiderman ก็ได้ออกมาตอบเช่นกันว่าเขาจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังในการรวมกรุ๊ป The Avengers แต่ว่าที่แน่ๆคือ ทางมาร์เวลเองก็มีแผนการที่จะให้ไอ้แมงมุมได้ไปปรากฏตัวอยู่ใน Captain America: Civil War แบบพอหอมปากหอมคอด้วยเช่นกัน




เพียงแต่ว่าการประกาศข่าวที่น่ายินดีนี้ก็มีข่าวร้ายเช่นกัน ปางโปรเจ็คหนังที่รวมดาวร้ายของตัวละครคู่อริของสไปเดอร์แมนอย่าง Sinister Six ที่มีกำหนดการเข้าฉายในปี 2016 ก็ถูกพับเก็บเข้ากรุไปพร้อมทั้งมีทีท่าว่าอาจจักไม่ได้สร้างในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

พร้อมทั้งอย่างไรก็ตามข้อตกลงใหม่ที่เกิดขึ้นระหว่าง เควิน ไฟกี ของมาร์เวล สตูดิโอ พร้อมทั้ง เอมี พาสคาล ซึ่งลาออกจากตำแหน่งประธานร่วมของโซนี พิกเจอร์สนั้น ที่ทั้งสองสตูดิโอจักร่วมมือกันสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ให้กับซูเปอร์ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมน

ซึ่งความพิเศษ ที่มียิ่งกว่านั้นก็คือ การที่อาจจักหาโอกาสพิเศษให้ตัวละครจากจักรวาลมาร์เวลได้มีโอกาสมาโผล่อยู่ในเรื่องราวของหนังเรื่องสไปเดอร์แมนด้วย




พร้อมทั้งที่แน่นอนว่าโปรแกรมหนังในเรื่อง The Avengers Age of Ultron นั้นคงจักยังไม่มีสไปเดอร์แมนโผล่หน้ามา ก็เพราะว่าว่าได้ปิดกล้องไปแล้วแถมหนังก็จ่อคิวเข้าฉายแล้วเรียบร้อย แต่ว่าในตอน Avengers: Infinity War – Part 1 เขานั้นก็น่าจะได้ออกมาร่วมพวกกับบรรดาฮีโร่คนอื่นๆอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นการได้ร่วมฝ่ายของฮีโร่นักไต่เข้ากับจักรวาลมาร์เวลครั้งนี้ทำให้สตูดิโอต้องเลื่อนวันฉายของซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ ตามไปด้วยดังถัดไปนี้


  1. เรื่อง Thor: Ragnarok นั้นเลื่อนวันฉายใหม่ไปเป็น 3 พฤศจิกายน 2017
  2. เรื่อง Black Panther นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 6 กรกฎาคม 2018
  3. เรื่อง Captain Marvel นั้นเลื่อนตามไปเป็น 2 พฤศจิกายน 2018
  4. เรื่อง Inhumans นั้นเลื่อนวันฉายไปเป็น 12 กรกฎาคม 2019



ภาคปิดฝาผนัง HUNGER PART 2 อย่างยิ่งใหญ่

บนจอ IMAX พร้อมทั้งหนังภาคแยก




ซึ่งหลังจากที่โดนแฟนหนังทั่วโลกโอดโอยว่าทำไมหนังภาคแรกของ The Hunger Games: Mockingjay PART 1 ถึงแม้ว่าไม่ได้เข้าฉายบนจอ IMAX แต่เพราะภาคที่สองที่มีคิวเข้าฉายในช่วงกลางปีนี้ได้ข้อสรุปจากสตูดิโออย่างไลออนเกสต์แล้ว่าในภาคนี้จักได้ฉายบนจอใหญ่ยักษ์อย่างแน่นอน

แถมด้วยตัวผู้กำกับหนังอย่าง ฟรานซิส ลอวร์เรนซ์ได้คอนเฟิร์มแล้วเวยว่าหนังภาคนี้จักกลายเป็นแบบ IMAX 3D ด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าจะเป็นการปิดม่านสงครามแห่งพาเน็มอย่างยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว

ซึ่งถึงแม้ว่าตอนหนัง PART1 จะไม่ได้ดูเป็นเวอร์ชั่น 3D แต่เพราะว่าประเทศจีนกลับได้สิทธิพิเศษได้ดูเป็นเวอร์ชั่นสามมิติ ซึ่งตัวผู้กำกับฟรานซิส ลอว์เรนซ์พอใจกับงานภาพที่ถูกดัดแปลงเป็นสามมิติด้วย

แต่ว่าอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าหนังภาคที่กำลังจักเข้าฉายนี้อาจจักไม่ใช่ภาคสุดท้ายของแฟรนชายส์นี้ครั้นโจน เฟลเทเมอร์ ที่เป็นซีอีโอของ ค่ายไลออนเกสต์ ได้เปิดแย้มว่า ในอนาคตอาจจักมีการคลอดโปรเจ็คหนังภาคแยกออกมาอีก ซึ่งประเดี๋ยวนี้เรากำลังพัฒนาพร้อมกับคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาคก่อนหน้าหรือว่าภาคต่อหลังจากหนัง Mockingjay PART 2 จบลง โจน เฟลเทเมอร์กล่าวไว่

พร้อมกับจากสถานการณ์ พร้อมด้วย โอกาสที่มีความเป็นไปได้มากกว่าคือการพัฒนาหนังภาคพรีเควนซ์หรือภาคก่อนหน้าออกมา ซึ่งแน่นอนว่าตัวหนังอาจจะมีการพูดถึง เกมล่าชีวิต ในครั้งก่อนหน้าหนังภาคแรกซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ที่ว่าหนังอาจจักโฟกัสไปที่ตัวละครฟินิค(แซม คาฟลิน) เคยเป็นผู้ชนะในเกมครั้งก่อนหน้า

ซึ่งโอกาสที่จักพัฒนาหนังภาคต่อออกมานั้นก็น่ากังขาอยู่ว่าเรื่องราวในพาเน็มนั้นจักมีอะไรให้พูดถึงอีกเนื่องมาจากเรื่องการปฏิวัติของพาเน็มมันจบลงอย่างสมบูรณ์แน่นอนแล้วในภาคที่ 3 นี้ เพราะแฟรนชายส์ Hunger Games นั้นแตกต่างจากแฟรนชายส์อย่าง Harry Potter ยังพาผู้ชมไปเปิดโลกเวทมนตร์ในมิติต่างๆได้อีกเพียบแยะมากมาย

เอาน่ะ!! อย่างไรก็ตามเหตุผลของความพยายามจะพัฒนาภาคอื่นๆของเรื่อง Hunger Games ออกมาอีกก็เพราะว่าหนังเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสตูดิโอไลออนเกสต์ซึ่งทำกำไรให้อย่างมหาศาล กับถึงแม้ว่า แฟรนชายส์ของ Divergent จักทำกำไรให้สตูดิโอเช่นกันแต่มันก็ยังห่างไกลคำว่ามหาศาลแบบ Hunger Games





วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

จ้อง 4 คดีน่าดึงดูดก่อนดูพลแม่นปืนหนังใหม่ใจความสำคัญ American Sniper

อ่าน 4 เรื่องน่ารู้ก่อนดูพลแม่นปืนหนังใหม่เรื่อง American Sniper






ข้อที่ 1. หนังเรื่องนี้ได้เข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ ในปี 2015

เกี่ยวกับรอบหนังเรื่องนี้ ได้เข้าชิงถึง 6 สาขาด้วยกันบนเวทีออสการ์ประกอบไปด้วย

  1. สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
  2. นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แบรดลีย์ คูเปอร์
  3. บทจอเงินดัดแปลงยอดเยี่ยม
  4. ตัดต่อยอดยี่ยม
  5. ผสมเสียงยอดเยี่ยม
  6. สาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม 


เพราะว่าการเข้าชิงรางวัลถึง 6 สาขาบนเวทีออสการ์ปีนี้ ทำให้หนังเรื่อง American Sniper เปรียบเสมือนเป็นจอเงินตัวแทนมหาชนในการเข้าชิงรางวัล เพราะว่าหนังขวัญใจมหาชนอย่าง Gone Girl พร้อมกับ Interstellar หลุดโผไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว





ข้อที่ 2.หนังเรื่องนี้สร้างจากเค้าโครงเรื่องแท้จริง

เรื่องนี้เกิดขึ้นเท่าที่ คริส ไคล์ ที่เป็นพลแม่นปืนสไนเปอร์ผู้มีตัวตนอยู่นักตามพระราชประวัติศาสตร์ เขาเป็นผู้ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายหลายครั้งตลอดช่วงเวลาที่เขารับราชการทหารอยู่ในสงครามอิรักจนกลายเป็นตำนานที่ต้องถูกได้รับการพูดถึงของหน่วยซีลเลยทีเดียว ซึ่งเขาได้รับเกียรติและการสดุดีมากมายพร้อมทั้งเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นสไนเปอร์มือฉกาจที่สุดจากสถิติการสังหารถึง 160 คน ด้วยกัน ตัวเลขที่อาจจะเป็นไปได้คือจำนวน 255 คนด้วยซ้ำไป



ข้อที่ 3.หนังเรื่องนี้ เป็นผลงานการกำกับของ คลินท์ อีสต์วู้ด

เขาเป็นผู้กำกับพร้อมทั้งนักแสดงมือฉกาจในวัย 85 ปีที่ทะลวงประสบการณ์การทำงานมาแล้วอย่างโชกโชน เขาทำหนังมาแล้วถึง 37 เรื่อง ในฐานะผู้กำกับหนัง รวมไปถึงยังได้คว้ารางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับหนังด้วยกันจอเงินยอดเยี่ยมมาจากโปรแกรมหนังขึ้นหิ้งอย่าง Unforgiven ปี 1992 รวมไปถึง Million Dollar Baby

ถึงแม้ว่าตัวอีสต์วูดเองจักกล่าวว่าเขาไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อชิงรางวัลก็ตามแต่การถูกเมินในสาขาผู้กำกับหนังจากบนเวทีลูกโลกทองคำ และ ออสการ์ ปีล่าสุดในฐานะผู้กำกับหนัง กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ กับทัศนคติในการทำงานของเขาแต่อย่างใด


ข้อที่ 4.หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอด เรื่องราวของพลแม่นปืน

เพราะด้วยหนังมาใหม่เรื่องนี้ ได้เล่าเรื่องราวของมือปืนแห่งหน่วยซีลของกองทัพสหรัฐฯ อย่าง คริส ไคล์ ที่ได้ถูกส่งตัวไปที่ ประเทศอิรักพร้อมกับภารกิจปกป้องเหล่าพี่น้องทหาร ความแม่นยำของเขาได้ช่วยชีวิตในสมรภูมิรบมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน

พร้อมกับตราบเรื่องราวความกล้าหาญของเขาได้แพร่สะพัดออกไป เขานั้นก็ได้รับการยกย่องให้เป็น ตำนาน แต่ทว่าชื่อเสียงของเขาก็เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ศัตรูเช่นกัน

นั่นทำให้เขามีค่าหัวกับกลายเป็นเป้าหมายหลักสำคัญของพวกกบฏพร้อมด้วยเขายังต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง คือการทำหน้าสามีกับคุณพ่อที่ดีจากทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย


ต้องขอขอบคุณภาพหนังจากทาง วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์สไทยแลนด์






ตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง American Sniper




วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

Dreamworks ความเก่งลดลง! คนชมแอนิเมชั่นน้อย ปล่อยโปรเจคมากเกิน 2 กงการต่อปี

ค่าย Dreamworks กำลังแย่! คนดูแอนิเมชั่นน้อย โล๊ะโปรเจคเหลือกระฉ่อน 2 เรื่องต่อปี




ซึ่งถึงแม้ว่าจักได้ ชื่อว่าเป็นสตูดิโอผลิตจอเงินhttp://woodykeeka.wordpress.com/การ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังของโลก แถมปีที่ข้ามมาก็ทำรายได้จากภาพยนตร์เรื่อง How to Train Your Dragon 2 ไปได้ไม่น้อย

แต่ว่าทาง Dreamworks ก็กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากสถานการณ์ ทางการเงินของบริษัทอยู่เหมือนกัน เหตุเพราะในช่วง 2 - 3 ปีที่เปลี่ยนมานี้รายได้จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นของ Dreamworks นั้นทำยอดได้ลดลงเรื่อยๆ

ด้วยกันอันเนื่องมาจากผู้ชมภาพยนตร์การ์ตูนแอนเมชั่นลดน้อยลง อีกทั้งยังเจอหนังแอนิเมชั่นของคู่แข่งอย่าง Frozen ของดิสนี่ย์แย่งซีนไปด้วย




พร้อมทั้งเพื่อความอยู่รอดของบริษัท ทาง Dreamworks จึงตกลงใจลดขนาดของบริษัทลง ด้วยการเลิกจ้างพนักงานกว่า 500 ตำแหน่ง และลดจำนวนโปรเจคหนังแอนิเมชั่นที่ทำฉายในแต่ละปี

จากแต่ก่อนหนังเข้าใหม่ปีละ 3 เรื่อง เหฟุ้งเฟื่องปางปีละ 2 เรื่องเท่านั้น เพราะว่าหนังแอนิเมชั่นแต่ละเรื่องนั้น ทาง Dreamworks ใช้เงินลงทุนสร้างค่อนข้างมาก

แต่ว่ายอดรายได้จาก Box Office น่าผิดหวัง เพราะว่าเฉพาะเรื่อง Shrek พร้อมกับ Madagascar ที่ทำยอดได้น้อยลง มีเท่า How to Train Your Dragon 2 เท่านั้นที่พอทำกำไรให้บริษัทได้

พร้อมทั้งในช่วงที่ทาง Dreamworks กำลังประสบปัญถ้าารเงินนี้ ก็มีบริษัทอื่นยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการหนังใหม่ อย่างเช่น SoftBank ไม่ใช่หรือ Hasbro เป็นเงิน 3,4 พันล้าน US Dollars




และสิ่งที่ Jeffrey Katzenberg ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท DreamWorks Animation เปิดตีแผ่ว่าการลดจำนวนภาพยนตร์ที่จะทำออกมานั้นเป็นหนทางหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญหาการเงินของบริษัทได้ เพราะการทำภาพยนตร์ออกมาแค่ 2 เรื่องต่อปีก็พอ

แต่ว่า 2 เรื่องนั้นต้องเป็นภาพยนตร์คุณภาพ ที่ทำรายได้สูงในรอบหนังของ Box Office คือทำออกมาน้อยลง แต่เน้นคุณภาพเพื่อให้ทำรายได้ที่ดีกว่า เพื่อความอยู่รอด


และทั้งนี้ตัวอย่างหนังใหม่ ครั้นเมื่อตอนปี 2012 ทาง DreamWorks ก็เคยประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 350 คนไปแล้ว แต่ตอนนั้นผังงานของทาง DreamWorks ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือจักทำภาพยนตร์แอนิมเชั่นภาคต่อออกมาปีละ 2 เรื่อง

พร้อมกับได้ทำเรื่องใหม่ออกมาปีละเรื่อง รวมเป็น 3 เรื่องต่อปี ซึ่งทำให้บริษัทขาดทุนไปไม่น้อย พอมาคราวนี้ปลดไปอีก 500 คน กับลดโปรเจคเหฟุ้งเฟื่องแค่ 2 เรื่องต่อปีแล้ว จักช่วยให้ทาง DreamWorks อยู่รอดได้จริงหรือไม่ไม่




แต่ว่าครั้งนี้โปรแกรมหนังภาพยนตร์แอนิเมชั่นจาก DreamWorks ที่กำลังสร้างยังมีอยู่เยอะแยะ คือ

  1. โทร์ล
  2. สำนักงานปฏิบัติการโลกหน้า
  3. ละครเพลงที่มุมไบ
  4. กังฟูแพนด้า 3 
  5. How to Train Your Dragon 3 


แต่ว่าหลังจากนี้จักเริ่มทำมีงานสร้างน้อยลงแล้ว

ที่มา: http://movie.sanook.com/46709/